สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เมื่อวานนี้ (23 ก.ค.) การเลือกตั้งกัมพูชาได้เสร็จสิ้นลงแล้ว โดยหลังปิดหีบการเลือกตั้งประมาณ 2 ชั่วโมง โฆษกพรรคประชาชนกัมพูชา (CPP) ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลของสมเด็จฮุน เซน นายกรัฐมนตรี ออกมาประกาศว่า ทางพรรคของเขากำลังจะได้รับชัยชนะในศึกการเลือกตั้งครั้งนี้อย่างถล่มทลาย และจากการนับคะแนนของเขาเอง คาดว่า พรรค CPP ของเขา จะได้รับคะแนนเสียงระหว่าง 78-80 %
นอกจากนี้ทางพรรค CPP ยังคาดการณ์ว่า จะสามารถรักษาที่นั่งในสภาล่างได้ทั้งหมด 125 ที่นั่ง เพื่อยืดอายุการเป็นรัฐบาล และปูทางไปสู่การสืบทอดอำนาจ จนทำให้นักวิจารณ์บางคนได้นำการเมืองกัมพูชาไปเปรียบเทียบกับการเมืองของเกาหลีเหนือ
ทั้งนี้ สมเด็จฮุน เซน วัย 70 ปี ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้นำประเทศที่ครองอำนาจยาวนานที่สุดของโลก และปกครองกัมพูชามาแล้ว 38 ปี ไม่ต้องเผชิญกับการแข่งขันใดๆ ในการเลือกตั้งครั้งนี้
เพราะพรรคแสงเทียน (CP) ซึ่งถือเป็นคู่แข่งขันสำคัญเพียงรายเดียวที่พอจะท้าทายพรรครัฐบาลได้ ถูก คณะกรรมการการเลือกตั้ง ตัดสิทธิ ไม่ให้ลงทะเบียนสมัครรับเลือกตั้ง โดยให้เหตุผลว่า ยื่นเอกสารที่จำเป็นไม่ครบถ้วน ส่วนที่เหลืออีก 17 พรรค ก็เป็นแค่พรรคเล็ก ๆ ที่ไม่มีทุน
สำหรับการเลือกตั้งในกัมพูชา ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 7 นับตั้งแต่องค์การสหประชาชาติสนับสนุนให้มีการเลือกตั้งในปี 1993 มีประชาชนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งมากกว่า 9 ล้าน 7 แสนคน รวมถึงกลุ่มเขมรแดง
จากการบันทึกจำนวนผู้มาใช้สิทธิ์เลือกตั้งเมื่อเวลา 21.00 นาฬิกาตามเวลาท้องถิ่นของเมื่อวานนี้พบว่า มีผู้มาใช้สิทธิ์สูงถึง 85 %
สมเด็จ ฮุน เซน ระบุว่า นี่ถือเป็นการแสดงให้เห็นว่า กลุ่มที่สนับสนุนฝ่ายค้านลดลง และชาวกัมพูชาจะไม่ปล่อยให้กลุ่มคนขี้โกงเหล่านี้ทำลายประเทศ
ล่าสุด คณะกรรมการการเลือกตั้งแห่งชาติ (NEC) เปิดเผยผลเบื้องต้นของการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อช่วงดึกของคืนวันที่ 23 กรกฎาคม ระบุว่า พรรคประชาชนกัมพูชา (CPP) ที่ปกครองประเทศในปัจจุบัน ได้รับเสียงข้างมาก ได้ 125 ที่นั่งในสภาแห่งชาติ โดยเสียให้กับพรรค FUNCINPEC เพียง 5 ที่นั่งเท่านั้น
ตลอดในช่วง 30 ปี ที่ผ่านมา ความคาดหวังของประชาคมระหว่างประเทศที่ผลักดันให้กัมพูชาเดินหน้าตามแบบประชาธิปไตยแบบหลายพรรคถูกจำกัดภายใต้การปกครองของ สมเด็จฮุน เซน
การคาดหมายว่า สมเด็จฮุน เซน จะได้รับชัยชนะแบบขาดลอยในการเลือกตั้งครั้งนี้ เกิดขึ้นท่ามกลางกระแสข่าวว่า เขาได้วางตัว “ฮุน มาเนต” บุตรชายคนโต ให้สืบทอดตำแหน่งผู้นำประเทศต่อ เพราะเขาเปิดเผยว่า เขาสามารถส่งต่ออำนาจได้ภายในไม่กี่สัปดาห์
ทั้งนี้ผู้คนจำนวนมากต่างตั้งข้อสงสัยว่า “ฮุน มาเนต” ซึ่งสำเร็จการศึกษาจากสหรัฐฯ และอังกฤษอาจนำการเปลี่ยนแปลงมาสู่กัมพูชาหรือไม่ แม้ว่า สมเด็จฮุน เซน ประกาศชัดเจนว่า เขาตั้งใจที่จะรักษาแนวทางการปกครองประเทศแบบนี้ต่อไป แม้ว่าลูกชายของเขาจะก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งผู้นำประเทศก็ตาม
นักวิจารณ์ตั้งคำถามถึงความชอบธรรมของการเลือกตั้งกัมพูชา
“ฮุน เซน” เผยพร้อมร่วมงานกับผู้นำไทยทุกคน ไม่ว่าเป็นใครหรือมาจากพรรคใด คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
“ฮุน เซน” ยกบทเรียนกัมพูชา เตือนยูเครนอย่าใช้คลัสเตอร์บอมบ์