มีรายงานว่า คนรุ่นใหม่ในจีนที่เพิ่งสำเร็จการศึกษาระดับวิทยาลัยกำลังตกอยู่ในภาวะติดขัดอย่างยิ่ง บางคนต้องทำงานในตำแหน่งงานที่มีรายได้ต่ำ หรือบางคนได้งานที่ต่ำกว่าระดับความสามารถ
สถิติของทางการจีนแสดงให้เห็นว่า อัตราการว่างงานในเมืองใหญ่ของคนที่มีอายุระหว่าง 16-24 ปี พุ่งแตะระดับ 20.47% เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา คิดเป็นคนที่มีช่วงอายุดังกล่าว 6 ล้านคน จากทั้งหมด 96 ล้านคน กำลังไม่มีงานทำ ขณะที่ยังมีเด็กนักศึกษาอีกหลายล้านคนที่กำลังเตรียมสำเร็จการศึกษาในระดับวิทยาลัยในปีนี้อีกคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
เหยา ลู่ ศาสตราจารย์ด้านสังคมวิทยา แห่งมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย ในนครนิวยอร์กของสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ฟองสบู่ของนักศึกษานี้ในท้ายที่สุดก็แตกออก การขยายการศึกษาระดับวิทยาลัยเมื่อช่วงปลายทศวรรษที่ 1990 ทำให้เกิดการหลั่งไหลอย่างมหาศาลของผู้ที่สำเร็จการศึกษาระดับวิทยาลัย แต่กลับเกิดภาวะที่ไม่สอดคล้องกัน ระหว่างดีมานด์และซัพพลาย ของแรงงานที่มีทักษะสูง
วิกฤตของการทำงานที่ต่ำกว่าทักษะนี้ เป็นอีกหนึ่งปัญหาที่เยาวชนคนรุ่นใหม่และผู้วางนโยบายของรัฐบาลจีน กำลังต่อสู้อยู่
ด้านหลี่ เสี่ยวกัง ศาสตราจารย์แห่งมหาวิทยาลัยเจียวถง คาดการณ์ว่า มีอย่างน้อยหนึ่งในสี่ของผู้สำเร็จการศึกษาระดับวิทยาลัยในประเทศจีน ต้องทำงานต่ำกว่าทักษะของตนเอง เพื่อหลีกเลี่ยงการตกงาน
ทั้งนี้ การทำงานที่ต่ำกว่าทักษะเกิดขึ้น เมื่อบุคคลนั้นๆต้องทำงานที่ใช้ทักษะต่ำกว่าความรู้ความสามารถ หรือเป็นงานที่ได้ค่าตอบแทนต่ำ หรือบางครั้งก็เป็นงานพาร์ทไทม์ เพราะว่าพวกเขาไม่สามารถหางานประจำที่เหมาะกับความสามารถของตนเองได้
ด้านนโยบายโควิดเป็นศูนย์ของทางการจีนระหว่างช่วงการแพร่ระบาดของโควิด 19 ทำให้โรงงานจำนวนมากต้องปิดตัวลง และการล็อกดาวน์ที่กินเวลาถึง 2 เดือนในนครเซี่ยงไฮ้เมื่อปีที่แล้ว ก็ส่งผลทำให้เศรษฐกิจจีนได้รับผลกระทบ
ส่วนโกลด์แมนแซ็ค บริษัทด้านการเงินของสหรัฐฯ เปิดเผยว่า การชะลอตัวลงของภาคบริการเมื่อต้นปีของจีน ก่อนที่จีนจะเปิดประเทศ อาจจะมีส่วนสำคัญที่ทำให้อัตราการว่างงานของคนรุ่นใหม่สูงขึ้น และคาดการณ์ด้วยว่า สถานการณ์ดังกล่าวอาจจะเลวร้ายจนถึงจุดพีคในช่วงเดือนกรกฎาคมถึงสิงหาคมนี้ เมื่อนักศึกษารุ่นใหม่สำเร็จการศึกษาในปีนี้