อย่างไรก็ดี ปฏิบัติการโต้กลับในฤดูใบไม้ผลิเพื่อยึดคืนพื้นที่ของยูเครนยังไม่เริ่มต้น เนื่องจากประธานาธิบดีเซเลนสกีของยูเครนระบุว่า ยังไม่ถึงเวลาและการเปิดฉากในตอนนี้จะได้ไม่คุ้มเสีย ในระหว่างนี้เราจึงได้เห็นภาพผู้นำยูเครนเยือนหลายประเทศในยุโรปเพื่อขออาวุธเพิ่มเติม ก่อนที่จะเดินทางกลับยูเครนเมื่อคืนที่ผ่านมา
หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจเยือนเป็นอิตาลี เยอรมนี ฝรั่งเศส และสหราชอาณาจักร ซึ่งเป็นพันธมิตรรายใหญ่ของยูเครนในสหภาพยุโรป
เอกสารลับที่ถูกอ้างเป็นข้อมูลข่าวกรองสหรัฐฯ คาดสงครามยูเครน-รัสเซีย มีแนวโน้มยืดเยื้อตลอดปี
กลาโหมเนเธอร์แลนด์ชี้ “เป็นไปได้ยาก” หลังยูเครนร้องขอ “F-16”
โวโลดิมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครนได้อัดคลิปวิดีโอระหว่างเดินทางกลับกรุงเคียฟ ระบุว่ากำลังเดินทางกลับบ้าน พร้อมอาวุธรุ่นใหม่ที่ทรงพลังและความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมจำนวนมาก
สำหรับความช่วยเหลือด้านอาวุธ สำนักข่าวเดอร์สปีเกลระบุเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า เยอรมนีเตรียมส่งมอบรถถังเลพเพิร์ด-1 ยานยนต์หุ้มเกราะ รถถังต่อต้านอากาศยาน โดรนสอดแนม และระบบป้องกันภัยทางอากาศรุ่นไอริส-ที มูลค่ากว่า 2,700 ล้านยูโรหรือราว 99,000 ล้านบาทให้ยูเครน
ขณะที่รัฐบาลสหราชอาณาจักรเปิดเผยว่า ได้ส่งขีปนาวุธร่อนรุ่นสตรอม ชาโดว์ (Strom Shadow) ที่มีพิสัยการยิงอยู่ที่ 250 กิโลเมตรไปให้ยูเครนใช้สู้รบ โดยพิสัยของขีปนาวุธร่อนรุ่นนี้ไกลกว่าระบบไฮมาร์สของสหรัฐฯ ถึง 3 เท่า
นอกจากนี้ผู้นำยูเครนยังระบุว่าอีกเรื่องหนึ่งที่ถูกหารือคือ การส่งเครื่องบินรบรุ่นใหม่ให้ยูเครน โดยประธานาธิบดีเซเลนสกีระบุว่า ตอนนี้ยูเครนและพันธมิตรได้ร่วมกันสร้างทีมที่จะทำหน้าที่ฝึกหนักบินยูเครนให้ใช้เครื่องบินตะวันตกได้
คำพูดดังกล่าวของผู้นำยูเครนสอดคล้องกับคำแถลงของบรรดาผู้นำชาติพันธมิตรตะวันตกไม่ว่าจะเป็นสหราชอาณาจักรหรือฝรั่งเศส
เมื่อวานนี้ 15 พ.ค. หลังเสร็จสิ้นการเยือนสหราชอาณาจักร ทางการของสหราชอาณาจักรได้เปิดเผยว่า ในฤดูร้อนหรือตั้งแต่เดือนหน้าไปจนถึงเดือนกันยายน สหราชอาณาจักรจะเริ่มฝึกนักบินของยูเครนให้ใช้เครื่องบินรบสัญชาติตะวันตก ขณะเดียวกันก็จะประสานกับชาติพันธมิตรตะวันตกชาติอื่นเรื่องการส่งเครื่องบินรบ F-16 ให้ยูเครนควบคู่กันไป
ขณะเดียวกัน เอมมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ก็ได้ออกมาแถลงเมื่อวานนี้เช่นกันว่า ฝรั่งเศสพร้อมจะฝึกการใช้เครื่องบินรบสัญชาติตะวันตกให้แก่ยูเครน และตอนนี้หลายชาติตะวันตกก็กำลังทำแบบเดียวกันอยู่
ด้วยท่าทีเช่นนี้ของผู้นำยูเครนและผู้นำชาติพันธมิตรตะวันตก ทำให้หลายฝ่ายวิเคราะห์ว่า ยูเครนมีโอกาสได้รับเครื่องบินรบสัญชาติตะวันตกค่อนข้างสูง โดยเฉพาะรุ่น F-16 ที่ผู้นำยูเครนเคยร้องขอไปตั้งแต่เยือนสหราชอาณาจักรอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนกุมภาพันธ์
ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ของทางการยูเครนตั้งแต่ระดับประธานาธิบดี กองทัพ ไปจนถึงรัฐมนตรีต่างประเทศย้ำหนักแน่นชัดเจนว่า ยูเครนจำเป็นต้องใช้เครื่องบินรบสัญชาติตะวันตกเพื่อสู้รบและปิดฉากสงครามครั้งนี้คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
หากกลุ่มชาติพันธมิตรตะวันตกตัดสินใจส่งมอบเครื่องบินรบสัญชาติตะวันตกให้ยูเครนจริง คำถามสำคัญคือประเทศใดจะให้เครื่องบินรบที่มีมูลค่าสูงเช่นนี้บ้าง ตอนนี้มี 2-3 ประเทศ ได้แก่ เนเธอร์แลนด์ โปแลนด์ และเดนมาร์ก ที่เคยเปิดเผยว่าพร้อมส่งเครื่องบินรบ F-16 ให้ยูเครนทันทีหลังจากชาติพันธมิตรตะวันตกทุกชาติบรรลุข้อตกลงร่วมกัน แกเบรียล มอลิเนลลี นักข่าวและบล็อกเกอร์ด้านประวัติศาสตร์กองทัพสหราชอาณาจักรให้ความเห็นเรื่องการส่งมอบเครื่องบิน F-16 ไว้ว่า เครื่องบินรบ F-16 ที่อาจถูกส่งไปยูเครนล็อตแรกในอนาคตอาจเป็นเครื่องบินรบที่ถูกปลดประจำการของเนเธอร์แลนด์
ขณะเดียวกัน บล็อกเกอร์รายนี้ยังระบุว่า ตอนนี้สหราชอาณาจักรกำลังยื่นข้อเสนอทำหน้าที่เป็นนายหน้าอำนวยความสะดวกช่วยประเทศพันธมิตรต่างๆ ขนส่งเครื่องบินรบไปให้ยูเครน
ส่วนระยะเวลาการขนส่งจะขึ้นอยู่กับเวลาที่ประเทศต้นทางเจ้าของเครื่องบินส่งมอบมาให้สหราชอาณาจักร
ในระหว่างที่ยูเครนกำลังรอเครื่องบินรบ F-16 และอาวุธยุทโธปกรณ์หนักต่างๆ ที่ชาติตะวันตกกำลังจะส่งมอบให้ยูเครนเพิ่มเติมเพื่อทำปฏิบัติการโต้กลับในฤดูใบไม้ผลิ กองทัพยูเครนเองก็ไม่ได้อยู่นิ่งเฉย ได้ฝึกซ้อมเตรียมพร้อมสำหรับภารกิจสำคัญที่กำลังจะมาถึง
ภาพของกองพลทหารราบระดับสูงของยูเครนที่ประจำอยู่ที่แคว้นดนีโปรเปตรอฟสก์ทางตอนใต้ของประเทศ กำลังฝึกซ้อมรบเพื่อทำปฏิบัติการโต้กลับรัสเซีย ท่ามกลางแสงแดดฤดูใบไม้ผลิ ทหารยูเครนบอกว่าพวกเขาฝึกซ้อมรบทุกวันและรอคำสั่งเปิดปฏิบัติการจากผู้บัญชาการ ก่อนจะย้ำว่าพวกเขาเตรียมตัวสำหรับการสู้รบนี้มาตลอดชีวิต
นอกจากยูเครนจะเตรียมการปฏิบัติการโต้กลับในฤดูใบไม้ผลิแล้ว ล่าสุดกระทรวงกลาโหมรัสเซียได้ออกมาแถลงเมื่อวานนี้ว่า ยูเครนโจมตีพื้นที่ที่รัสเซียครอบครองอยู่ด้วยขีปนาวุธพิสัยไกลด้วย อิกอร์ โคนาเชนคอฟ โฆษกกระทรวงกลาโหมรัสเซียออกมาแถลงว่า เมื่อวานนี้ระบบป้องกันภัยทางอากาศของรัสเซียสามารถยิงสกัดขีปนาวุธต่อต้านเรดาร์ตรวจจับรุ่น HARM ได้ 7
นอกจากนี้ ระบบตรวจจับยังสามารถยิงสกัดขีปนาวุธพิสัยไกลรุ่นสตรอม ชาโดว์ได้อีก 1 ลูก โดยขีปนาวุธสตรอม ชาโดว์ เป็นขีปนาวุธพิสัยไกลที่สหราชอาณาจักรเพิ่งประกาศส่งให้ยูเครนไปเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
ด้านดมิทรี เปสคอฟ โฆษกรัฐบาลรัสเซียได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า การตัดสินใจส่งขีปนาวุธพิสัยไกลให้ยูเครนของสหราชอาณาจักรเป็นการตัดสินใจที่ไม่เหมาะสมอย่างมากและกองทัพรัสเซียจะตอบโต้เรื่องนี้อย่างสาสม
นอกจากการโจมตีด้วยขีปนาวุธพิสัยไกลแล้ว เมื่อวานนี้ เจ้าหน้าที่ประจำแคว้นลูฮันสก์ที่ถูกแต่งตั้งโดยทางการรัสเซียออกมารายงานว่า เกิดเหตุระเบิดปริศนาขึ้นที่ร้านตัดผมในเมืองลูฮันสก์ ผลจากแรงระเบิดทำให้ร้านตัดผมและอาคารใกล้เคียงได้ความเสียหาย มีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 7 ราย โดยหนึ่งในผู้เสียหายเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงของแคว้นลูฮันสก์ที่ได้รับการแต่งตั้งโดยรัฐบาลรัสเซีย
ผู้บาดเจ็บรายดังกล่าวคือ อิกอร์ คอร์เนียต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยของสาธารณรัฐลูฮันสก์ ซึ่งดำรงตำแหน่งนี้มาตั้งแต่ปี 2014
ข้อมูลล่าสุดจากสื่อในพื้นที่ระบุว่า อิกอร์ได้รับบาดเจ็บสาหัสและรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล ด้วยการใช้เครื่องช่วยหายใจเนื่องจากมีอาการบาดเจ็บทางสมอง
หลังจากเกิดเหตุ คณะกรรมการสอบสวนของรัสเซียได้เปิดการสอบสวนและลงพื้นที่หาหลักฐานเพื่อหาตัวผู้ก่อเหตุ ก่อนจะนำตัวมาลงโทษทางกฎหมายในภายหลัง หลายฝ่ายมองว่าเหตุระเบิดครั้งนี้อาจเป็นฝีมือของยูเครนและนี่อาจเป็นหนึ่งในแผนโต้กลับในฤดูใบไม้ผลิของยูเครนด้วย
นอกจากเหตุระเบิดปริศนาในแคว้นลูฮันสก์ที่รัสเซียครอบครอง เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาก็มีเหตุการณ์ที่หลายฝ่ายสนใจคือ การสูญเสียเครื่องบินของรัสเซียถึง 4 ลำรวดในบ้านของตนเองภายในวันเดียว
ย้อนกลับไปเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา สำนักข่าวทาสส์ (TASS) ของรัสเซียรายงานว่าเกิดเหตุเครื่องบินรบรัสเซียจำนวน 4 ลำ ได้แก่ เครื่องบินรบรุ่นซู-34 (Su-34) เครื่องบินรบรุ่นซู-35 และเฮลิคอปเตอร์รุ่นมิล เอ็มไอ-8 2 ลำ ตกในแคว้นเบรียนสก์ ทางตะวันตกของรัสเซีย
ภาพหลังเครื่องบินตกที่มีการบันทึกไว้ได้ เป็นภาพที่ถูกจากระยะไกล เผยให้เห็นกลุ่มควันดำขนาดใหญ่พวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า
ส่วนนี่คือภาพอีกมุมหนึ่งที่เผยให้เห็นขณะที่เครื่องบินกำลังร่วงลงมาจากท้องฟ้า ก่อนจะกระแทกกับพื้นดินจนเกิดเพลิงลุกไหม้
จนถึงตอนนี้ทางการรัสเซียยังไม่ออกมาเปิดเผยสาเหตุที่แท้จริงของความสูญเสียที่เกิดขึ้น แต่สำนักข่าวทาสส์ระบุเพียงว่า สาเหตุของการตกเกิดจากการขัดข้องของเครื่องยนต์
อย่างไรก็ดี กลุ่มบล็อกเกอร์สายทหารรัสเซียประเมินไปในทิศทางตรงกันข้าม โดยระบุว่าสาเหตุของการตกอาจมาจากการซุ่มโจมตีด้วยขีปนาวุธต่อต้านอากาศยานประทับบ่าของกองกำลังพิเศษยูเครน หลังเกิดเหตุ ทางการยูเครนยังไม่ออกมาให้ความเห็นเรื่องนี้ มีเพียงคอมเมนต์สั้นๆ ของ อิรินา เวียเรสชุค รองนายกรัฐมนตรียูเครนที่ระบุในเฟซบุ๊กว่า รัสเซียโกรธกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างมาก
อะไรคือสาเหตุที่ทำให้รัสเซียโกรธและไม่พอใจสาเหตุที่ทำให้รัสเซียไม่พอใจเนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้รัสเซียเสียเครื่องบินรบที่ใช้กองทัพไปมากถึง 4 ลำ และเหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นเหนือน่านฟ้าของรัสเซียเอง จากแผนที่จะเห็นได้ว่า จุดที่เครื่องบินตกทั้ง 4 ลำตกนี้ อยู่ในพื้นที่ชายแดนของรัสเซียติดกับพื้นที่ทางตะวันออกของเบลารุสและทางตอนเหนือของยูเครน
พลเอกเจมส์ มาร์กส์ นักวิเคราะห์ทางการทหารชาวอเมริกันให้ความเห็นว่า ถ้าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นฝีมือของยูเครนจริง นี่จะสะท้อนให้เห็นว่า ตอนนี้ยูเครนมีระบบป้องกันภัยทางอากาศประสิทธิภาพสูงที่สามารถโจมตีข้ามไปยังน่านฟ้าของรัสเซียได้ เนื่องจากถ้ายูเครนโจมตีข้ามไปยังน่านฟ้าเหนือชายแดนรัสเซียได้จริง หลังจากนี้พื้นที่ทางการทหารอื่นๆ ของรัสเซียบริเวณชายแดน อาจไม่มีจุดใดปลอดภัยและอาจตกเป็นเป้าโจมตีของยูเครนมากขึ้น
อย่างไรก็ดี เหตุการณ์เครื่องบินทั้ง 4 ลำตกไม่ได้สร้างความกังวลให้แค่รัสเซียเท่านั้น เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยังได้สร้างความกังวลให้กับเบลารุสที่เป็นพันธมิตรรายสำคัญของรัสเซียด้วย สังเกตได้จากท่าทีของอเล็กซานเดอร์ ลูคาเชนโก ประธานาธิบดีเบลารุส ที่ออกมาเปิดเผยว่ากองทัพเบลารุสได้ติดตามและยกระดับการเฝ้าระวังความปลอดภัยเหนือน่านฟ้าเบลารุสให้เป็นระดับสูงสุด
หลังจากเกิดการโจมตีรัสเซียหลายเหตุการณ์ในหลายพื้นที่ ล่าสุดทางหน่วยงานด้านข่าวกรองความมั่นคงของฝั่งยูเครน ได้ออกมาประเมินว่ารัสเซียไม่มีเขี้ยวเล็บหรือประสิทธิภาพที่จะโจมตีครั้งใหญ่ใส่ยูเครนได้อีกต่อไป
สิ่งที่รัสเซียทำได้ในเวลานี้คือการตั้งรับกองทัพยูเครนในสนามรบ ทั้งนี้หน่วยข่าวกรองของยูเครนกล่าวเสริมว่ายังประมาทรัสเซียไม่ได้ เนื่องจากรัสเซียยังสามารถโจมตีทางอากาศใส่ระบบโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ของยูเครนได้ โดยเฉพาะโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงาน
ทั้งนี้หลังหน่วยข่าวกรองด้านความมั่นคงของยูเครนออกมาเปิดเผยประสิทธิภาพในการรบของรัสเซีย ล่าสุดวันนี้รัสเซียได้ยิงขีปนาวุธโจมตีใส่หลายพื้นที่ทั่วยูเครน
ภาพเหนือท้องฟ้าของกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครนในวันนี้ หลังจากที่ถูกรัสเซียยิงถล่มด้วยขีปนาวุธ และระบบป้องกันภัยทางอากาศของยูเครนพุ่งเข้าไปสกัดไว้ได้ วาเลรี ซาลุชนี ผู้บัญชาการทหารสูงสุของกองทัพยูเครนรายงานว่า สามารถยิงสกัดขีปนาวุธที่รัสเซียโจมตีเข้ามาได้มากถึง 18 ลูก
ซึ่งมีทั้งขีปนาวุธที่ยิงจากเรือและยิงจากเครื่องยิงขีปนาวุธบนบก โดยวาเลรี ซาลุชนีให้รายละเอียดว่าขีปนาวุธทั้ง 18 ลูกประกอบไปด้วย
- ขีปนาวุธรุ่นคินซัล Kh-47M2 ที่ยิงจากเครื่องบินรบมิโคยาน-31K จำนวน 6 ลูก
- ขีปนาวุธร่อนชนิดยิงจากเรือในทะเลดำ จำนวน 9 ลูก
- ขีปนาวุธรุ่น S-400 ยิงจากระบบยิงขีปนาวุธภาคพื้นดินรุ่นอิสคันเดอร์เอ็ม จำนวน 3 ลูก
อย่างไรก็ดี ทางการยูเครนยังไม่ได้รายงานตัวเลขผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต รวมถึงความเสียหายจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น